Tag: wordpress

  • ฉลอง MV SNSD ตัวใหม่ด้วยบทความ ทำ Shortcode สำหรับดึง youtube thumbnail มาใช้ใน WordPress

    ฉลอง MV SNSD ตัวใหม่ด้วยบทความ ทำ Shortcode สำหรับดึง youtube thumbnail มาใช้ใน WordPress

    บางครั้งเราก็ไม่ได้อยากจะ Embed Video จาก youtube มา เราต้องการแค่ thumbnail เพื่อให้มัน link ไปที่วิดีโอใน youtube ดังนั้นเราเลยสร้าง shortcode ขึ้นมาเลย เพื่อจะได้ง่ายในการนำไปใช้ด้วย

    WordPress : Shortcode สำหรับดึง youtube thumbnail มาใช้งาน

    ผมได้อ่านบทความอันนี้ WordPress Display Youtube Video Thumbnail แล้ว แต่ผมก็ยังไม่ถูกใจทั้งหมด เลยนำ Code ของเค้ามาปรับ ๆ อีกหน่อยให้เหมาะกับที่ผมจะนำไปใช้

    [php]
    function wp_youtube_video_thumbnail($atts) {
    extract(shortcode_atts(array(
    ‘id’ => ”,
    ‘img’ => ‘0’,
    ‘align’=>’left’
    ), $atts));
    $align_class=’align’.$align;
    return ‘<a href="https://www.youtube.com/watch?v=’.$id.’" target="_blank"><img src="https://img.youtube.com/vi/’.$id.’/’.$img.’.jpg" alt="" class="’.$align_class.’" /></a>’;
    }
    add_shortcode(‘youtube_thumb’, ‘wp_youtube_video_thumbnail’);
    [/php]

    ผมใส่ shortcode แบบนี้นะครับ [youtube_thumb id=”6pA_Tou-DPI” img=”0″ align=”center”] จะได้ผลลัพธ์ออกมาดังตัวอย่างด้านล่าง

    [youtube_thumb id=”6pA_Tou-DPI” img=”0″ align=”center”]

    WordPress : รูปแบบของ shortcode

    [youtube_thumb id=”XXX” img=”YYY” align=”ZZZ”]

    id นำมาจาก id ของวิดีโอจาก youtube ที่เราต้องการ thumbnail

    img สำหรับ img นั้น มีให้เราเลือกอยู่ 6 แบบ ดังนี้

    • 0 : เป็น thumbnail ขนาด 480×360 pixels (จาก shortcode ที่เราสร้างขึ้น 0 จะเป็นค่ามาตรฐานของ img ในกรณีที่ไม่ได้ใส่ค่าให้ img)
    • 1 หรือ 2 หรือ 3 : เป็น thumbnail ขนาด 120×90 pixels ที่มีรูปแตกต่างกัน
    • default : เป็น thumbnail ขนาด 120×90 pixels รูปเดียวกับ 0
    • hqdefault : เป็น thumbnail ขนาด 480×360 pixels รูปเดียวกับ 0

    align นั้นมีให้เลือก 4 แบบ ดังนี้

    • left (จาก shortcode ที่เราสร้างขึ้น left จะเป็นค่ามาตรฐานของ align ในกรณีที่ไม่ได้ใส่ค่าให้ align)
    • right
    • center
    • none

    ว่าแล้วก็ฉลองด้วย MV ตัวใหม่แบบไม่เป็น thumbnail เลยแล้วกันครับ >_< https://www.youtube.com/watch?v=6pA_Tou-DPI

  • วิธีใช้ WordPress ตอนที่ 8 – วิธีใช้ Media Library

    วิธีใช้ WordPress ตอนที่ 8 – วิธีใช้ Media Library

    Media Library นั้นใช้บอกรายละเอียด และจัดการกับรูป เอกสาร ไฟล์เสียง ไฟล์วิดีโอที่เราได้เคยทำการอัพโหลดไว้ รวมถึงยังสามารถอัพโหลดเพิ่มเติมเข้าไปได้อีกด้วย โดยสามารถเข้าไปยัง Media Library ได้จากหัวข้อ Media

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [1]
    เลือกที่หัวข้อ Media เพื่อเข้า Media Library

    Media Library : หน้าตาของ Media Library

    Media Library นั้นก็มีหน้าตาคล้าย ๆ กับหน้าจัดการ Post Page เพียงแต่เป็นหน้าจัดการรูป เอกสาร ไฟล์เสียง ไฟล์วิดีโอ โดยจะมีการบอกรายละเอียดต่าง ๆ ของไฟล์ที่เราเคยอัพโหลดไว้แล้ว

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [2]
    หน้า Media Library
    • File – บอกชื่อของไฟล์และนามสกุล
    • Author – บอกชื่อของคนที่อัพโหลดไฟล์นี้
    • Attached to – หากไฟล์นี้ถูกใช้งาน จะบอกว่าไฟล์นี้ถูกใช้งานที่ตำแหน่งไหน
    • Date – วันที่อัพโหลดไฟล์นี้

    Media Library : ชนิดไฟล์ที่เราสามารถอัพโหลดเพื่อใช้งานใน WordPress

    สำหรับไฟล์ที่สามารถอัพโหลดเพื่อใช้งานได้นั้น แบ่งออกเป็น 4 ประเภท

    รูปภาพ

    • .jpg
    • .jpeg
    • .png
    • .gif

    เอกสาร

    • .pdf
    • .doc , .docx
    • .ppt, .pptx, .pps, .ppsx
    • .xls, .xlsx
    • .odt

    เสียง

    • .mp3
    • .m4a
    • .ogg
    • .wav

    วิดีโอ

    • .mp4, .m4v
    • .mov
    • .wmv
    • .avi
    • .mpg
    • .ogv
    • .3gp
    • .3g2

    Media Library : ทดสอบอัพโหลดไฟล์เพิ่ม

    คราวนี้เรามาลองอัพโหลดไฟล์ขึ้นไปนะครับ ตอนนี้ผมมีไฟล์ test.pdf ให้เรากดที่ Add New เลยครับ เราจะเข้าสู่หน้าอัพโหลดไฟล์ครับ

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress
    หน้าอัพโหลดไฟล์

    กดเลือก Select Files แล้วเลือกไฟล์ที่เราต้องการอัพโหลด ในกรณีนี้ผมจะอัพโหลดไฟล์ test.pdf นะครับ เมื่ออัพโหลดเสร็จเราก็กรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องแล้วกด Save all changes เลยครับ

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [4]
    หลังจากอัพโหลดเสร็จแล้ว กรอกข้อมูลเกี่ยวกับไฟล์ให้เรียบร้อย

    ไฟล์ที่อัพโหลดไว้จะมาปรากฎที่หน้า Media Library โดยสังเกตที่ Attached to จะเป็นคำว่า (Unattached) นั้นคือ ไฟล์นี้ยังไม่ได้ถูกใช้งานแต่อัพโหลดไว้แล้ว

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [5]
    สังเกตว่าตรง Attached to จะเป็นคำว่า (Unattached)

    Media Library : แก้ไขรูปภาพ

    รูปภาพที่เราเคยทำการอัพโหลดและใช้งานไปแล้ว เกิดอยากแก้ไขมันขึ้นมาก็ให้เลือกที่ไฟล์รูปที่ต้องการแก้ไขเลยครับ เมื่อคลิ๊กแล้ว จะพบหน้ารายละเอียดของไฟล์ให้เลือกที่ Edit Image

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [6]
    คลิ๊กที่ Edit Image เพื่อแก้ไขรูปภาพ

    เราจะสามารถแก้ไขภาพแบบเบื้องต้นได้

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [7]
    หน้าจัดการแก้ไขรูปภาพ

    โดยเราสามารถหมุนภาพ หรือกลับด้านของภาพได้

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [8]
    สามารถหมุน และกลับภาพได้ตามที่ต้องการ

    หรือลากเม้าส์ที่รูปเพื่อทำการตัดรูปเฉพาะส่วนที่เราต้องการ แล้วกดที่ icon crop ด้านบน

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [9]
    ลากเม้าส์เพื่อเลือกส่วนที่จะตัด
    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [10]
    กดที่ Icon ด้านบนเพื่อทำการตัด
    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [11]
    ผลลัพธ์ที่ได้ออกมา

    ซึ่งเราก็สามารถเลือกได้ว่า รูปที่เราทำเสร็จมาแล้วนั้น จะแก้ไขทุกรูปเลย หรือเฉพาะ thumbnail หรือทุกรูปยกเว้น thumbnail

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [12]
    เลือกว่าจะแก้ไขทุกรูป หรือเฉพาะ thumbnail หรือยกเว้น thumbnail

    หลังจากนั้นก็เลือก Save และ Update Media ก็เสร็จเรียบร้อย

  • [How to] [Plugin] วิธีใช้ All in one SEO สำหรับ WordPress

    [How to] [Plugin] วิธีใช้ All in one SEO สำหรับ WordPress

    WordPress นั้นมี Plugin อยู่หลายตัวที่ใช้สำหรับการทำ SEO แต่ขอเลือกแนะนำ All in one SEO เพราะใช้ตัวนี้อยู่ :p

    วิธีใช้ All in one SEO สำหรับ WordPress

    หลังจากที่ติดตั้ง Plugin All in one SEO เสร็จแล้ว มาเริ่มตั้งค่าเพื่อใช้งานกัน

    วิธีใช้ All in one SEO สำหรับ WordPress
    ตัวอย่างการตั้งค่า All in one SEO สำหรับ WordPress

    Plugin Status

    เริ่มแรกเราต้องเปิดใช้งาน Plugin ของเราก่อน เลือกไปที่ Enabled เลยครับ

    Home Title

    ข้อความที่จะขึ้นที่ Title สำหรับหน้า Home อย่างเช่น ตอนนี้เว็บของผม ผมก็ตั้งไว้ว่า กระต่ายดำ ทำ CSS, WordPress | Rabbitinblack เป็นต้น และถ้าจะใช้อะไรแบ่ง Title ให้ใช้ – หรือไม่ก็ |

    วิธีใช้ All in one SEO สำหรับ WordPress
    Home Title ที่เราตั้งค่าไว้ จะปรากฎดังรูป

    Home Description

    รายละเอียดของหน้า Home ซึ่งปรกติจะเป็นการอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บของเราทั้งหมด

    Home Keywords

    คำสำคัญของหน้า Home โดยเราจะใช้ , เป็นตัวแบ่งคำสำคัญแต่ละคำ

    Canonical URLs

    Canonical URLs คือ เนื้อหาของเว็บที่เหมือนกัน ซึ่งจะทำให้อันดับใน Search engines ของเราลดลง ตัวอย่างที่อธิบายง่าย ๆ ก็อย่างเช่น https://example.com กับ https://www.example.com ซึ่งเนื้อหามันเหมือนกันแน่ ๆ เลือกหัวข้อนี้ไว้ เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาลักษณะนี้

    วิธีใช้ All in one SEO สำหรับ WordPress
    ตั้งค่าสำหรับ Rewrite Titles

    Rewrite Titles

    ปรกติแล้ว WordPress จะตั้งค่า Title ให้เราในลักษณะ Archive – Blog Name – Post Title ซึ่ง Title ลักษณะนี้ SEO นั้นดีสู้ Title ในลักษณะ Post Title – Blog Name สำหรับหน้า Post หรือ Page Title – Blog Name สำหรับหน้า Page ไม่ได้ ดังนั้น All in one SEO จีงจะเขียน Title ให้เราใหม่ในแบบที่เราต้องการ

    วิธีใช้ All in one SEO สำหรับ WordPress
    การตั้งค่าต่าง ๆ ที่เหลือ

    SEO for Custom Post Types

    ในการทำเว็บ WordPress ในบางครั้ง เรามีการใช้ Custom Post Types ดังนั้นต้องมาเลือกที่หัวข้อนี้ก่อน Custom Post Types นั้นถึงจะใช้งาน All in one SEO ได้

    Custom Post Types for SEO Column Support

    สามารถเลือกได้ว่าจะให้ Post Types แบบไหนใช้งาน All in one SEO

    Use Categories for META keywords, Use Tags for META keywords

    เอา Categories กับ Tags มาเป็น Keywords โดยอัตโนมัติ

    Dynamically Generate Keywords for Posts Page

    สำหรับหน้า Custom Post Types All in one SEO จะมีการสร้าง Keywords ให้

    Use noindex for Categories, Use noindex for Archives, Use noindex for Tag Archives

    ไม่นำหน้า Categories, Archives, Tag Archives ไปรวม เพื่อป้องกันการซ้ำกันของเนื้อหาในเว็บ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับ SEO ของเรา

    Autogenerate Descriptions

    All in one SEO จะสร้างรายละเอียดของแต่ละหน้าให้อัตโนมัติ

    Capitalize Category Titles

    หัวข้อนี้แปลออกมาว่า ประโยชน์จาก Category Titles ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันมีไว้ทำอะไร Y-Y

    หลังจากที่ตั้งค่าทั้งหมดเสร็จแล้ว กด Update Options เป็นการเสร็จสิ้นครับผม

  • วิธีใช้ WordPress ตอนที่ 7 – Embed Video ลงในบทความ WordPress

    วิธีใช้ WordPress ตอนที่ 7 – Embed Video ลงในบทความ WordPress

    วิธีใช้ WordPress ตอนนี้เป็นการใส่วิดีโอลงในบทความ WordPress ของเรา ปัจจุบันวิดีโอส่วนใหญ่ที่เรานำมาลงในเว็บนั้น ก็คงไม่พ้นว่าเรานำมาจาก youtube หรืออาจจะเป็น vimeo แล้วเราจะใส่วิดีโอเหล่านี้ลงในเว็บ WordPress ของเราได้ยังไง

    Embed Video จาก Youtube ลงในบทความ WordPress

    สมมติว่าผมเปิดเจอวิดีโออันนึงใน youtube แล้วอยากนำมาลงในเว็บ ปรกติเราก็คงกดไปที่ share

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [1]
    กด Share เพื่อจะ Embed Video มาลงในบทความ WordPress

    ซึ่งจะมี code มาให้เรานำไปวางแปะที่เว็บ

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [2]
    มี code ให้สำหรับเรานำวิดีโอไปลงในบทความ WordPress

    รู้สึกว่ามันยุ่งยากมั้ยครับ ถ้าคิดว่ามันยุ่งยาก ทำแบบนี้แล้วกันครับ ไปที่ URL แล้ว copy มันมา

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [3]
    Copy URL ของวิดีโอที่เราต้องการ

    แล้วก็เอามาวางแปะในบทความเราเลย สมมติผมสร้าง Post ใหม่มาเพื่อ Embed Video ลงในบทความ WordPress ของเรานะครับ

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [4]
    สร้างหัวข้อใหม่ แล้วลองนำ URL วิดีโอที่เราต้องการลงในบทความ WordPress มาวางแปะ

    เราก็จะได้บทความ WordPress ที่มีวิดีโอที่เราต้องการนำมาใส่แล้วครับ

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [5]
    วิดีโอที่เราต้องการลงในบทความ WordPress มาแล้ว

    Embed Video จาก Vimeo ลงในบทความ WordPress

    คราวนี้ถ้าเป็น Vimeo ละ ไม่ต้องกลัวครับ ใช้วิธีเดียวกัน คือ Copy URL ของวิดีโอมาวางแปะเลยครับ

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [6]
    Copy URL ของวิดีโอที่เราต้องการ
    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [7]
    สร้าง Post ใหม่ แล้วนำวิดีโอที่เราต้องการมาวางแปะในบทความ WordPress
    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [8]
    มาแล้ววิดีโอที่เราต้องการลงในบทความ WordPress

    ตั้งค่า Embed ในบทความ WordPress

    ให้เราไปที่ Settings มองหาหัวข้อ Media

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [9]
    Settings => Media

    ซึ่งการที่เราสามารถนำ URL มาวางแปะแล้วขึ้นโชว์ที่บทความ WordPress ของเราเลยนั้น ต้องมาติ๊กถูกที่หัวข้อ “When possible, embed the media content from a URL directly onto the page. For example: links to Flickr and YouTube.” ไว้ด้วยนะครับ และเรายังสามารถกำหนดขนาดของ Embed Video ได้ทั้งความกว้าง และความสูง ซึ่งปรกติถ้าเราไม่กรอกอะไรในช่องความกว้าง WordPress จะคิดความกว้างเป็นความกว้างสูงสุดของธีมเราให้เองครับ

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [10]
    ปรับแต่ง Embed ของเราได้ที่นี่
  • วิธีใช้ WordPress ตอนที่ 6 – ใส่รูปภาพในบทความ

    วิธีใช้ WordPress ตอนที่ 6 – ใส่รูปภาพในบทความ

    แน่นอนว่า บทความที่เราเขียนนั้น คงไม่ได้มีแต่ตัวหนังสือแน่ ๆ ต้องมีรูปภาพประกอบในบทความบ้างละ มาดูวิธีใส่รูปภาพลงไปในบทความกันนะครับ

    เพิ่มรูปภาพในบทความ WordPress

    บทความที่เราสร้างขึ้นมาใหม่ หรือบทความเก่าที่เราต้องการแก้ไข เราสามารถเพิ่มรูปภาพลงไปในบทความของเราได้โดยเลือกตำแหน่งที่จะลงรูปภาพ หลังจากนั้นคลิ๊กที่ icon เหมือนสี่เหลี่ยมผืนผ้าซ้อนกันตรงแถวคำว่า Upload/Insert

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [1]
    คลิ๊กที่ icon ในวงกลมสีแดง

    ซึ่งในการเพิ่มรูปภาพสำหรับบทความ WordPress นั้น มีให้เลือก 3 แบบ คือ

    รูปอธิบายหัวข้อ WordPress [2]
    สามารถเลือกได้ทั้งจากคอมของเรา, จาก URL หรือจากรูปภาพที่เราเคยเพิ่มมาแล้ว
    • From Computer : เลือกรูปภาพที่จะเพิ่มจากในคอมพิวเตอร์ของเรา
    • From URL : เพิ่มรูปภาพโดยการใส่ URL ของภาพที่เราจะใส่ในบทความ
    • Media Library : เลือกรูปภาพจากรูปภาพที่เราเคยอัพโหลดในเว็บมาแล้ว

    เลือกรูปจากคอมเราลงบทความ

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [3]
    เลือกที่ Select Files เพื่อเลือกรูปที่ต้องการเพิ่ม

    เลือกที่ Select Files เพื่อเลือกรูปที่เราต้องการเพิ่มในบทความ เมื่ออัพโหลดรูปภาพเสร็จแล้วจะปรากฎส่วนที่ให้เรากรอกข้อมูลรูปภาพเพิ่มเติม โดยจะมีหัวข้อต่าง ๆ ตามที่ผมเข้าใจดังนี้

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [4]
    กรอกข้อมูลของรูปภาพ เพื่อนำไปใช้งานต่อไป
    • Title : ชื่อของรูป
    • Alternate Text : อธิบายเพิ่มเติม
    • Caption : คำบรรยายภาพ
    • Description : อธิบายเกี่ยวกับภาพ
    • Link URL : ให้รูป link ไปที่ไหน ซึ่งเลือกได้ว่า
      • None : ไม่ link ไปไหน
      • File URL : link ไปยังรูปของเต็มขนาดของรูปนั้น ๆ
      • Post URL : link ไปโดยทำรูปนั้นให้เป็นเหมือน 1 Post ไปเลย
      • หรือจะกรอก URL ที่ต้องการให้รูปนี้ link ไปหา
    • Alignment : จัดรูปให้ชิดซ้าย ชิดขวา หรืออยู่ตรงกลาง
    • Size : เลือกขนาดของรูปที่จะนำลงในบทความ

    ข้อมูลนั้น เราสามารถกรอกแค่ Title อย่างเดียวก็ได้ครับ หลังจากที่กรอกข้อมูลเสร็จแล้ว ก็กด Insert into Post เลยครับ ก็จะได้เป็นดังรูป

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [5]
    รูปที่เพิ่ม ปรากฎในช่องสำหรับ Edit Post

    แก้ไขรูปที่ลงในบทความ WordPress

    ให้คลิ๊กที่รูปภาพที่เราต้องการจะแก้ไข เมื่อคลิ๊กแล้วจะมี icon โผล่ขึ้นมา 2 อัน icon ด้านซ้ายคือ แก้ไขรูปภาพ และด้านขวาคือ ลบรูปภาพ

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [6]
    icon ทั้งสองที่ปรากฎเมื่อคลิ๊กที่รูปภาพ

    โดยเราสามารถแก้ไขรูปภาพของเราได้ดังนี้

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [7]
    แก้ไขรูปภาพที่เราได้ลงไปในบทความแล้ว
    • Size : เราสามารถแก้ไขขนาดรูปเป็น % ได้
    • Alignment : แก้ไขรูปให้ชิดซ้าย ชิดขวา หรืออยู่ตรงกลาง
    • Title : แก้ไขชื่อของรูป
    • Alternate Text : แก้ไขข้อความที่อธิบายเพิ่มเติม
    • Caption : แก้ไขคำบรรยายภาพ
    • Link URL : แก้ไข link ที่จะให้รูปภาพนี้ link ไปหา

    เสร็จแล้วก็ Update ได้เลยครับ รูปภาพของเราจะถูกแก้ไขเป็นไปตามที่เราเลือกไว้

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [8]
    รูปถูกลดขนาดลง และจัดชิดขวา

    แต่เรายังสามารถเลือก Advanced Settings เพื่อแก้ไขรูปภาพเพิ่มเติมจากเดิม โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของรูปภาพ กับส่วนของ Link

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [9]
    หน้า Advanced Settings

    ซึ่งสามารถกำหนดอะไรได้หลากหลายกว่า Edit Image

  • วิธีใช้ WordPress ตอนที่ 5 – สร้างและแก้ไข Pages

    วิธีใช้ WordPress ตอนที่ 5 – สร้างและแก้ไข Pages

    Pages นั้นอย่างที่เคยบอกไป ว่าส่วนใหญ่เราจะใช้งานกับหน้าที่เป็น Static หรือหน้าที่เราไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเนื้อหาภายในบ่อย อย่างเช่น About Us, Contact Us เป็นต้น ซึ่งตัว Pages เองก็สามารถมี Subpages ได้ ยกตัวอย่างจากรูป จะเห็นว่า About Us จะมี Subpages เป็น Awards

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [1]
    เมนูที่เกิดจาก Pages ต่าง ๆ ที่เราสร้างไว้

    Pages ประกอบด้วย

    โดยหน้า Pages นั้นก็จะประกอบด้วยโครงสร้างหลัก ๆ 2 อย่าง คือ

    1. Title(หัวข้อ) [สีแดง]
    2. Content(เนื้อหา) [สีฟ้า]
    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [2]
    ส่วนประกอบของหน้า Pages ทั่ว ๆ ไป

    Pages Template

    Pages นั้นเราสามารถเลือก Template ให้แต่ละหน้าได้ ว่าจะมี Layout แตกต่างกัน

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [3]
    มี Template สำหรับเปลี่ยน Layout ในแต่ละ Page

    จากรูปจะเห็นว่า About Us นั้นจะเป็น Pages Template ที่มี 1 Column แต่หน้าของ Contact Us นั้นจะเป็น Pages Template ที่มี 2 Column ที่เป็นส่วนของเนื้อหา กับ Sidebar

    สร้าง Pages ใหม่

    การสร้าง Pages ใหม่นั้นก็ให้เลือกที่ Add New ในหัวข้อของ Pages

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [4]
    เลือกตรงที่ลูกศรสีแดงชี้อยู่

    ซึ่งก็เหมือนการสร้าง Posts ใหม่ ที่เราต้องใส่หัวข้อ เนื้อหา แต่ส่วนที่ไม่เหมือนกันคือ Page Attributes

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [5]
    หัวข้อ Page Attributes

    โดยเราสามารถเลือกว่าจะให้ Pages ที่เราสร้างนั้นเป็น Subpages ของ Pages ไหนหรือเปล่า สามารถเลือก Template ได้ว่าจะให้ Layout ออกมาเป็นแบบไหน และสามารถจัดลำดับได้

    ยกตัวอย่าง ผมจะสร้างหน้าชื่อหัวข้อ Soshi โดยที่จะให้เป็น Subpages ของ About Us และใช้ Template แบบมี Sidebar รวมทั้งตั้งลำดับไว้เป็นลำดับที่ 1 (โดยไปตั้งหน้า Pages หัวข้อ Awards เป็นลำดับ 2 ไว้แล้ว)

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [6]
    แต่ละหัวข้อ เราสามารถเลือกค่าต่าง ๆ เพื่อกำหนดคุณสมบัติให้ Page นั้น ๆ (คลิ๊กที่รูปเพื่อขยาย)

    และเมื่อเรา Publish ออกไปแล้ว ที่หน้าเว็บก็จะมีหน้า Soshi ปรากฎขึ้นในส่วนที่เป็น Subpages ของ About Us ลำดับที่ 1 ก่อน Awards ที่เป็นลำดับที่ 2

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [7]
    หน้า Page Soshi ปรากฎในเมนู

    คลิ๊กเข้าไปที่หน้า Soshi ก็จะแสดง Layout มาในรูปแบบของ Sidebar Template ตามที่เราเลือกไว้

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [8]
    Layout ของ Page ตาม Template ที่เราเลือกไว้

    แก้ไข Pages ที่เราสร้างขึ้นมาแล้ว

    เราสามารถแก้ไข Pages ที่เราสร้างขึ้นมาแล้วได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขนั้นก็คล้ายกับการแก้ไข Posts แต่จะมีส่วนที่แตกต่างกันตรงที่ถ้าเราแก้ไขเป็นกลุ่มนั้น ของ Pages จะเป็นลักษณะแบบนี้

    รูปอธิบายหัวข้อ วิธีใช้ WordPress [9]
    เมื่อเลือกแก้ไขพร้อมกันหลาย ๆ หัวข้อ

    นอกจากนั้นการแก้ไข Pages จะมีลักษณะคล้ายการแก้ไข Posts ย้อนกลับไปดูได้ใน ตอนที่ 3 – แก้ไข Post ที่สร้างไปแล้ว